เหรียญมหาบารมี นิโรธกรรม ครั้งที่ 9 เนื้อเงิน
พิธีนิโรธกรรมครั้งที่ 9 ครูบาอริยชาติ
ภาพพุทธศาสนิกชนนับพันนับหมื่นคนที่หลั่งไหลไปร่วมพิธีออกนิโรธกรรมครั้งที่ ๙ ครั้งสุดท้ายของ ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ผู้สืบสานปฏิปทาสายครูบาศรีวิชัยและเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ บ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ในช่วงเช้ามืดของวันที่ ๑๒ ม.ค. ๒๕๕๖ ที่ผ่านมานั้น ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงพลัง “ศรัทธา-บารมี” และ “ความนับถือ” ในครูบาหนุ่มน้อยผู้นี้ได้เป็นอย่างดี
ในวันนั้นคณะศิษยานุศิษย์นำโดย พล.อ.พลางกูร กล้าหาญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.อารยะ งามประมวญ เสนาธิการกองทัพอากาศ นายภาสภณ เหตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด หรือเดลินิวส์ และพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศร้อยใจร่วมกันทำบุญครั้งใหญ่กับครูบาอริยชาติ ต่างอิ่มบุญอิ่มใจกันทั่วหน้า
การเข้านิโรธกรรมของครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ได้ยึดตามแบบฉบับของโบราณจารย์ในอดีตทุกประการ สมัยก่อน ครูบาชุ่ม โพธิโก อดีตเจ้าอาวาสวัดวังมุย ก็ยึดแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพียงแต่ครูบาชุ่มนั้นพลังจิตแกร่งกล้าและบารมีญาณสูงมาก คณะศิษย์ทั้งหลายเชื่อว่าท่านน่าจะเข้า “นิโรธสมาบัติ” ไม่ไช่ “นิโรธกรรม” ซึ่งเป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นของพระอริยสงฆ์ ภายหลังครูบาอริยชาติได้พบบันทึก “ตำราปั๊บสา” หรือตำรากระดาษสาของครูบาชุ่ม จึงหมั่นเพียรศึกษาและใช้วิธีเดียวกัน เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระธรรม นั่นคือที่มาของการเข้านิโรธกรรมรวม ๙ ครั้ง ของครูบาอริยชาติ
ทั้งนี้การเข้านิโรธกรรมตามตำราของครูบาชุ่ม โพธิโก ท่านให้ขุดหลุมลึก ๑ ศอก กว้าง ๒ ศอก พอดีเข่า แล้วสร้างซุ้มฟางครอบ ให้มีความสูงแค่เลยหัว ๑ ศอก โดยกำหนดชัดเจนว่าจะยืนไม่ได้ ไม่ฉัน ไม่ถ่ายหนักเบา ฉันได้แต่น้ำและมีผ้าขาว ๔ ผืนปูรองนั่ง แทนความหมายคือ อริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค มีเสาซุ้ม ๘ ต้น แทนความหมาย มรรค ๘ ยอดซุ้มปักธงฉัพพรรณรังสี อันมีความหมายถึงปัญญา ราชวัติล้อมซุ้มมี ๙ ชั้น แทนความหมายของ โลกุตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ รวมเป็น ๙ ซึ่งการเข้านิโรธกรรมของครูบาชุ่ม บางครั้งเข้า ๗ วัน ๙ วัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าตามสถานที่ห่างไกลคน หรือที่เรียกว่า “สัปปายะ” มีการจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยและห้ามใครมารบกวนในรัศมี ๑๐๐ เมตร และก่อนจะเข้านิโรธกรรม ต้องนิมนต์พระสงฆ์จำนวน ๕ รูป มารับรองความบริสุทธิ์จนเรียบร้อยแล้ว จึงจะเข้านิโรธกรรมได้
โดยครูบาอริยชาติได้ทำการเข้านิโรธกรรมครั้งที่ ๙ นี้ ตั้งแต่วันที่ ๔ ม.ค. ๒๕๕๖ และออกจากนิโรธกรรมในวันที่ ๑๒ ม.ค. เวลา ๐๔.๐๐ น.รวมเวลา ๙ วัน และในวันออกนิโรธกรรม ถือเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะชาวล้านนา จะมีการทำบุญใหญ่ตักบาตรกับครูบาอริยชาติ และพระสงฆ์อีกหลายรูป เนื่องจากโบราณกาลเชื่อกันว่า หากใครได้ทำบุญกับพระภิกษุที่เพิ่งออกจากนิโรธกรรมแล้วจะได้รับอานิสงส์ยิ่งใหญ่ ตายไปขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าเลยทีเดียวในโอกาสมหามงคลครูบาอริยชาติ ออกจากนิโรธกรรม ทางวัดแสงแก้วโพธิญาณได้จัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญนิโรธกรรม มหาบารมี ให้เช่าบูชาวัตถุมงคล หาทุนทรัพย์ปรับแต่งภูมิทัศน์รูปหล่อเหมือนครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พระวิหาร พระอุโบสถ หอไตร ศาลาการเปรียญ ห้องน้ำ และกำแพงวัด อีกด้วย
วัตถุมงคล พิธีนิโรธกรรมครั้งที่ 9 ครูบาอริยชาติ ประกอบด้วย
๑.เหรียญนิโรธกรรม มหาบารมี ครั้งที่ ๙ ชุดทองคำ (๕ เหรียญ) แบ่งเป็น ๑. เหรียญเนื้อทองคำแท้ น้ำหนัก ๒๓ กรัม เหรียญเนื้อเงินหน้ากากทองคำ เนื้อนวโลหะหน้ากากทองคำ เนื้ออัลปาก้า และเนื้อสัตโลหะ
๒.เหรียญนิโรธกรรม มหาบารมี ครั้งที่ ๙ เนื้อเงินแท้ สร้าง ๙๙๙ เหรียญ เนื้อนวโลหะ สร้าง ๙๙๙ เหรียญ เนื้อทองแดง ๙,๙๙๙ เหรียญ
๓.ล็อกเกตนิโรธกรรม ครั้งที่ ๙ หลังทองคำน้ำหนัก ๑๘ กรัม (สร้างตามจอง) หลังเงินแท้ สร้าง ๓๑๑ องค์ หลังทองแดง สร้าง ๙๙๙ องค์เนื้อทองแดง ๙,๙๙๙ เหรียญ